วันเสาร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ทำความรู้จักกับ คอลลาเจน (Collagen)



Collagen คืออะไร

คอลลาเจน (Collagen) มีรากศัพท์มาจากภาษากรีกคือ Kolla แปลว่า “กาว”


     เพราะเป็นโมเลกุลของโปรตีนที่มี Polypeptide 3 สายประกอบกันเป็นเกลียวเส้นใย มีหน้าที่สำคัญในการเชื่อมและยึดจับเซลล์เนื้อเยื่อเข้าด้วยกัน เช่น เส้นเอ็น ข้อต่อกระดูกต่างๆ รวมถึงช่วยเสริมการสร้างเนื้อเยื่อและเส้นเลือด สามารถพบได้ทั่วไปในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม โดยมีปริมาณถึงร้อยละ 33 ของโปรตีนทั้งหมดในร่างกาย 

     การสังเคราะห์คอลลาเจนเกิดในชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) ซึ่งมีเซลล์ชื่อไฟโบรบลาสท์(Fibroblast) กระจายอยู่ทั่วและทำหน้าที่ผลิตสาระสำคัญต่อผิว 3 ชนิดคือ 1.คอลลาเจน (Collagen) ช่วยให้ผิวตึง กระชับ  2.อิลาสติน (Elastin) ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่น และ 3.กรดไฮยาลูโรนิค (Hyaluronic Acid) ช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้น เอิบอิ่ม โดยรวมแล้วในชั้นผิวหนังแท้จะมีคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบมากที่สุดถึง 75% เลยทีเดียว


Collagen มีกี่แบบ
ในปัจจุบันแบ่งคอลลาเจนออกเป็น 29 รูปแบบ แต่มากกว่า 90% ของคอลลาเจนใน   ร่างกายจะมีอยู่ใน 4 รูปแบบต่อไปนี้

     ในวัยเด็กเราจะมีคอลลาเจน Type III มากที่สุด ผิวของเด็กจึงดูนุ่มเนียน เต่งตึงสะดุดตากว่าวัยไหนๆ  แต่เมื่อเราโตขึ้นคอลลาเจน Type I ก็จะถูกสังเคราะห์ขึ้นมาแทนที่ จนกระทั่งอายุ 25 ปีขึ้นไป คอลลาเจนในร่างกายจะเริ่มเสื่อมสภาพลงเรื่อยๆ โดยลดลงในอัตรา 1.5%  ต่อปี เมื่อมีการสูญเสียคอลลาเจนมากกว่าการผลิตขึ้นใหม่ ผิวหนังจึงขาดความกระชับตึงและยุบตัวลงมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นสาเหตุของริ้วรอยและผิวพรรณแห้งกร้านตามมา
 นอกจากการเสื่อมสลายไปตามธรรมชาติแล้ว ยังมีอีกหลายปัจจัยที่กระตุ้นให้คอลลาเจนเสื่อมเร็วขึ้น เช่น รังสียูวีจากแสงแดด บุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สารปนเปื้อนในอาหาร อนุมูลอิสระ และการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เป็นต้น 
 
Collagen กับสุขภาพ   
     
เนื่องจาก คอลลาเจน เป็นส่วนประกอบของกระดูก เอ็น และเนื้อเยื่อ ที่ทำหน้าที่ยึดเหนี่ยว ส่วนต่างๆ ในร่างกาย นักวิจัยจึงเชื่อว่าการที่ร่างกายมีคอลลาเจน อย่างเพียงพอจะช่วยลดอาการของโรคข้อต่ออักเสบ รวมถึงช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคดังกล่าวได้โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในภาวะเสี่ยง เช่น นักกีฬาที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายหนักๆ เป็นต้น ทั้งนี้การรับประทานคอลลาเจนอาจเรียกได้ว่าแทบไม่ต่างกับการรับประทานอาหารประเภทโปรตีน แต่เนื่องจากร่างกายคนเรามีปัจจัยแตกต่างกัน เช่น เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายจะดูดซึมสารอาหารไปซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้น้อยลง หรือไลฟ์สไตล์เร่งรีบที่ทำให้คนเรามีความเครียดสูง ต้องเผชิญกับมลพิษรอบตัว ไม่มีเวลารับประทานอาหารครบ 5 หมู่ ฯลฯ ก็ล้วนทำให้ร่างกายมีคอลลาเจนไม่เพียงพอกับความต้องการได้ทั้งสิ้น  การรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อทดแทนในส่วนที่ขาดจึงได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน เพราะมีขั้นตอนการย่อยน้อยกว่าเนื้อสัตว์ 
 
Collagen กับผิวพรรณ
     
 
นอกจากคอลลาเจนจะถูกนำมาใช้ในทางการแพทย์ เช่น ลดการอักเสบของผิวหนัง ใช้เป็นไหมละลายในการผ่าตัด ใช้เป็นสารบุร่องเหงือกและใช้เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อแล้ว ในวงการผิวพรรณและความงามก็นำคอลลาเจนมาใช้เป็นส่วนประกอบอย่างแพร่หลายเช่นกัน อาทิ สกินแคร์ที่มีสารไมโครคอลลาเจน (Microcollagen) และวิตามินซีช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ไฟโบรบลาสท์ หรือการฉีดคอลลาเจนเข้าสู่ผิวโดยตรง (Collagen Replacement Therapy)  ซึ่งทำให้ผิวเรียบตึงขึ้นได้ทันตา แต่ต้องฉีดซ้ำทุกๆ 6 เดือน และอาจมีผลข้างเคียงบางประการ เช่น เกิดตุ่มนูนเรื้อรังจากการฉีดในปริมาณมากเกินไป หรือเกิดอาการแพ้คอลลาเจนได้ จึงควรทดสอบการแพ้โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนฉีดเสมอ
     ส่วนในรูปแบบของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อผิวสวย นิยมใช้คอลลาเจน Type I ที่สกัดจากปลาทะเล (Bio-marine Collagen) เพราะมีโครงสร้างคล้ายคลึงกับคอลลาเจนในร่างกายมนุษย์มากที่สุด ซึ่งมักนำมาตัดพันธะเคมีด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ให้มีโมเลกุลเล็กลงและง่ายต่อการดูดซึม เรียกว่า ไฮโดรไลซ์ คอลลาเจน (Hydrolyzed Collagen) หรือคอลลาเจน ไฮโดรไลเสท (Collagen Hydrolysate) ถือเป็นทางหนึ่งที่ช่วยเสริมคอลลาเจนให้ผิวพรรณได้ง่ายขึ้น เพราะในช่วง 2-3 ชั่วโมงแรกของการหลับ ต่อมพิทูอิตารีในสมองจะหลั่งโกรว์ธ ฮอร์โมน (Growth Hormone) สู่กระแสเลือดเพื่อฟื้นฟูส่วนต่างๆ ของร่างกาย หากมีคอลลาเจนเพียงพอก็จะช่วยในการสังเคราะห์โปรตีนเพื่อซ่อมแซมเซลล์ผิวที่สึกหรอได้ดียิ่งขึ้น และยังมีผลทางอ้อมต่อการลดน้ำหนักไปพร้อมกัน กล่าวคือเมื่อร่างกายมีการสร้างกล้ามเนื้อมากขึ้น ก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญไขมันมากขึ้นด้วย การรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจึงเป็นทางเลือกที่ง่ายกว่าการรับประทานอาหารประเภทโปรตีนในปริมาณมากก่อนเข้านอน 

 
Collagen กับตัวช่วยยังมีอีกหลายตัวช่วยที่ยืดอายุคอลลาเจนให้อยู่กับเราได้นานขึ้น ลองปฏิบัติตามเคล็ดลับดีๆ เหล่านี้ดูนะคะ 
• รับประทานอาหารอย่างเหมาะสม นอกจากทานอาหารให้ครบ 5 หมู่แล้ว ควรเน้นผักและผลไม้ที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระอย่าง วิตามินซี วิตามินอี และเบต้าแคโรทีน เพราะมีคุณสมบัติปกป้องและเพิ่มความแข็งแรงให้กับคอลลาเจนและอิลาสตินได้ดี
• คงความชุ่มชื่นให้เซลล์ผิว ยิ่งผิวสูญเสียความชุ่มชื่นมากเท่าไหร่ ริ้วรอยถาวรก็ปรากฏเร็วขึ้นเท่านั้น จึงควรชะลอวัยให้ผิวด้วยการใช้มอยส์เจอไรเซอร์เป็นประจำ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไฮโดรไลซ์ คอลลาเจน โปรคอลลาเจน อิลาสติน เอเอชเอ หรือเรตินอล ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• ใช้ชีวิตอย่างพอดี ไม่ว่าจะใช้ผลิตภัณฑ์ดีเพียงไร การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารครบหมู่ และทำจิตใจให้แจ่มใส ก็ยังเป็นวิธียืดอายุคอลลาเจนที่สำคัญที่สุด หากรักษาสมดุลการใช้ชีวิตได้อย่างเหมาะสมแล้ว สุขภาพดีและผิวพรรณอ่อนเยาว์ก็จะอยู่กับเราไปอีกนานแน่นอนค่ะ

ไฮโดรไลซ์คอลลาเจนสกัดจากปลาทะเล ดูดซึมง่าย
เสริมพลังบำรุงเพื่อผิวสวยด้วยวิตามินบี 1 และวิตามินบี 2

*****************************************

คอลลาเจน...โครงสร้างของกระดูก



 เมื่ออายุมากขึ้น เราต้องการปริมาณแคลเซียมในจำนวนที่มากขี้นตามไปด้วย การรับประทานแคลเซียมเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ และผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับโครงกระดูกอ่อนแอ แต่ในขณะเดียวกันแคลเซียมก็ไม่สามารถสร้างไขกระดูก และเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกได้โดยลำพัง แต่ต้องทำงานคู่กับ “คอลลาเจน” แบบพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน หากเราเปรียบเทียบโครงกระดูกของเราเป็นเสาคอนกรีต เสาแต่ละต้นก็จะต้องมีเส้นเหล็กยึดเสาคอนกรีตนั้นๆ ให้เป็นรูปทรงที่แข็งแรงและได้มาตรฐาน กระดูกก็เช่นกันจะต้องมีใยชนิดหนึ่งที่เรียกว่า "คอลลาเจน" (Collagen) เพื่อทำหน้าที่ยึดโครงสร้างกระดูกไว้ เมื่อใดที่คอลลาเจนของกระดูกถูกทำลาย แคลเซียมในกระดูกที่เคยถูกยึดไว้ด้วยคอลลาเจนก็จะลดลงตามไปด้วย


            คอลลาเจน ชื่อนี้คงเป็นที่รู้จักมักคุ้นเป็นอย่างดีซึ่งมาจากคำว่า kolla เป็นภาษากรีก แปลว่า กาว ทำหน้าที่เป็นกาวเชื่อมเซลล์แต่ละเซลล์เข้าด้วยกันเป็นสารที่มีคุณค่าและเป็นประโยชน์ต่อร่างกายของคนเรา นับตั้งแต่เรื่องของความแข็งแรงของอวัยวะต่างๆ ของร่างกายมนุษย์ เกี่ยวข้องกับเรื่องของความสวยความงามของเซลล์ผิวหนัง ซึ่งสามารถสัมผัสกับความตึงของคอลลาเจนได้โดยลองจับแก้มเด็กตัวเล็กๆ จะสัมผัสได้ทันทีถึงความสดใสเต่งตึงที่ผิวแก้ม หรือเด็กวัยรุ่นที่กำลังแตกเนื้อหนุ่มสาวจะเห็นว่าผิวพรรณสดใส เต่งตึงทีเดียว ทั้งนี้ คอลลาเจนไฮโดรไลเซท ก็คือโปรตีนเนื้อเยื่อเส้นใยชนิดหนึ่ง ที่มีความยืดหยุ่น เรียกว่า Elastic Fiber ซึ่งจะประกอบด้วยกรดอะมิโนหลายชนิดที่สำคัญได้แก่ ไกลซีน (Glycine) โปรลีน (Proline) และไฮดรอกซี่ โปรลีน (Hydroxy proline) มีความสำคัญยิ่งต่ออวัยวะในร่างกาย เช่น กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น กระดูกอ่อน กระดูก เหงือก ฟัน ตา ผิวหนัง และหลอดเลือด เป็นต้น ซึ่งคอลลาเจนนี้จะช่วยให้โครงสร้างของร่างกายแข็งแรง และมีความยืดหยุ่นดี โดยเฉพาะจำเป็นต่อเนื้อเยื่อของกระดูกอ่อนบริเวณข้อ ในการรับน้ำหนักเคลื่อนไหว หรือขยับไปมาได้อย่างปกติทั่วไป
            ในร่างกายของคนเรามีโปรตีนอยู่มากมาย ซึ่งประมาณ 30-40% จะเป็นคอลลาเจน ระดับของปริมาณคอลลาเจนในร่างกายจะลดลงเมื่ออายุเพิ่มขึ้น เมื่อระดับของคอลลาเจนลดลง จะทำให้ความยืดหยุ่นและสภาพความแข็งแรงของโครงสร้างอวัยวะต่างๆของร่างกายลดลงด้วย ช่วงที่คอลลาเจนในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง ร่างกายก็จะเริ่มสูญเสียความแข็งแรงของผิวหนัง กระดูก และกระดูกอ่อนตรงข้อต่อ ที่เป็นสาเหตุของปัญหาโรคข้อเสื่อมตามมา จนเกิดปัญหาปวดข้อ ข้อฝืด ข้อแข็ง ข้ออักเสบ ข้อผิดรูป ซึ่งมักจะเกิดกับผู้หญิงมากกกว่าผู้ชาย คอลลาเจนยังเป็นส่วนประกอบถึง 90% ของเนื้อกระดูก โดยมีแคลเซียมสะสมอยู่ในช่องว่างระหว่างคอลลาเจน การขาดคอลลาเจน จะทำให้แคลเซียมไม่สามารถสะสมในกระดูกได้ ทำให้เกิดภาวะกระดูกเสื่อม และเปราะหักง่ายทั่วร่างกาย ในการเพิ่มความหนาแน่นของกระดูก กระดูกอ่อน และฟัน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรับประทานคอลลาเจนเสริม ร่วมกับแคลเซียม ข้อเสื่อมเกิดจากการที่กระดูกอ่อนบางลงหรือฉีกขาดออกเมื่อมีการเคลื่อนไหวข้อ จึงทำให้กระดูกใหญ่ 2 ชิ้น กระทบเสียดสีกัน เป็นผลให้เกิดอาการปวด บวม ข้ออักเสบ ฝืดขัดเวลาขยับหรือเคลื่อนไหว และเสียงกรุบกรับตามข้อ คอลลาเจนช่วยแก้ปัญหาและลดอาการดังกล่าวได้ โดยเมื่อร่างกายได้รับคอลลาเจนจะมีการดูดซึมเข้าไปในกระแสเลือดและกระตุ้นให้มีการสร้าง Collagen และ Proteoglycan ขึ้นจึงทำให้เกิดการเสริมสร้างความแข็งแรง ปรับสภาพความยืดหยุ่น เพิ่มความหนาแน่นของกระดูกอ่อนทำให้ไม่มีอาการปวดหรืออักเสบของข้ออันมาจากสาเหตุข้อเสื่อม นอกจากจะลดปัญหาของเรื่องข้อเสื่อมแล้ว คอลลาเจนไฮโดรไลเซท ยังมีประโยชน์ในผู้มีปัญหาเรื่องกระดูก เช่น ในผู้หญิงวัยทองที่จำเป็นต้องเสริมแคลเซียม และจำเป็นต้องใช้ยาที่ป้องกันการสลายของแคลเซียมจากกระดูก เมื่อรับประทานคอลลาเจนไฮโดรไลเซทร่วมด้วย พบว่ามีส่วนหรือมีผลทำให้กระดูกแข็งแรงขึ้น และลดการสลายแคลเซียมจากกระดูกได้ดีกว่าการใช้ยาแต่เพียงอย่างเดียว 
            ปัจจุบันคอลลาเจนสามารถสกัดมาจากเนื้อเยื่อกระดูกอ่อนของสัตว์เช่น วัว หมู และสกัดมาจากหนังหรือเกล็ดปลาทะเลน้ำลึกและได้มีการพัฒนาคอลลาเจนไฮโดรไลเซท ในรูปแบบที่รับประทานง่าย และมีรสชาติอร่อย เช่น นำมาทำเป็นผงบรรจุกระป๋องไว้ชงดื่มและให้ละลายง่ายในน้ำเย็น เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์จำพวกชา กาแฟ อาหารบำรุงสมองหรือในรูปแบบแคปซูล เป็นต้น ซึ่งมีจำหน่ายตามร้านยา และตามร้านขายผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพ อันเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งในเรื่องของปัญหาข้อเสื่อมกับการรับประทานคอลลาเจน ซึ่งเป็นสารอาหารอย่างหนึ่งที่มิใช่ยาแต่มีคุณค่าและคุณประโยชน์ต่อโรคข้อกระดูกเสื่อมได้ จึงทำให้ลดการใช้ยาแก้ปวดและยาต้านการอักเสบ รวมทั้งทำให้การเคลื่อนไหวของข้อดีขึ้นได้ ซึ่งก็คือทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและเนื้อเยื่อต่างๆแข็งแรงขึ้นอีกด้วย
            ทราบถึงคุณประโยชน์ของคอลลาเจนกันไปแล้ว และต่อไปนี้จะสรุปถึงประโยชน์ของคอลลาเจนถ้าหากรับประทานอย่างต่อเนื่อง จะทำให้สุขภาพผิวของท่านแข็งแรงและมีความยืดหยุ่นดี ช่วยลดริ้วรอยเหี่่ยวย่น ทำให้ผิวพรรณกระชับ เนียนใส เปล่งปลั่ง ช่วยเผาผลาญไขมัน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการนอนหลับ เพิ่มความกระฉับกระเฉง เสริมสร้างกล้ามเนื้อ บำรุงข้อต่อ และ กระดูก ในผู้ที่มีน้ำหนักตัวน้อยเกินไป คอลลาเจนจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และมีประโยชน์ต่อผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น ผู้ที่เป็นโรคปวดข้อ ผู้ที่มีคอเลสเตอรอลสูง ผู้ป่วยโรคเบาหวาน และผู้ที่มีความดันโลหิตสูง ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยเหล่านี้มีสุขภาพดี

ที่มา: Food Today Magazine No.3


myspace traffic












ไม่มีความคิดเห็น: