วันพุธที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2553

บริหารกายใจให้สมดุล

เพราะชีวิตของคนเรามีความแตกต่างกัน ความพอดีของคนคนหนึ่งอาจเป็นสิ่งที่มากเกินไปสำหรับอีกคน ในขณะที่อีกคนอาจรู้สึกว่าน้อยไป... และที่สำคัญในแต่ละช่วงชีวิตของแต่ละคน ก็มีความสมดุลแตกต่างกัน

สมดุลแห่งชีวิตจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเราจัดสรรเรื่องงาน ครอบครัว คนรอบข้าง และจิตใจของเราให้มีความ
พอเหมาะพอดี ลองมาดูกันสิว่า มีแนวาทงจัดสรรได้อย่างไรบ้าง
ทำงานในเวลางาน
หลักสำคัญที่จะช่วยไม่ให้เวลาทำงานไปเบียดบังเวลาในชีวิตส่วนตัว คือ ต้องทำงานเฉพาะในเวลางาน
เท่านั้น ทั้งนี้ การทำงานในเวลาทำงานไม่ได้หมายความถึงการทำงานตามเวลา แต่หมายถึงการกำหนดเวลาทำงานที่แน่นอนตายตัว เช่น ถ้ามีงานปริมาณมากกว่าปกติ ต้องทำงานล่วงเวลา ควรกำหนดให้แน่ชัดว่าจะทำงานล่วงเวลากี่ชั่วโมง และต้องคำนวณเวลาพักผ่อนให้เพียงพอตั้งแต่ 6 - 8 ชั่วโมง เช่น ทำงานล่วงเวลาหลังจากเลิกงานอีก 3 ชั่วโมง ตั้งแต่ 17.00 - 20.00น. เป็นต้น

เพื่อให้การทำงานล่วงเวลามีประสิทธิภาพ ก่อนเริ่มต้นทำงานในช่วงล่วงเวลาควรจะหากิจกรรมพักผ่อน
ก่อนลงมือทำงาน เช่น อ่านหนังสือ เดินเล่น เล่นเกมส์ ทานข้าว หรือนั่งพักสบายๆ จิบน้ำผลไม้หรือกาแฟไปพลางๆ ก่อนลงมือทำงานจริง

ข้อควรระวัง ไม่ควรทำงานไปเรื่อยๆ จนกว่างานจะเสร็จ เพราะนั่นจะทำให้งานเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งใน
ชีวิตส่วนตัว จนกระทั่งสูญเสียเวลาส่วนตัวไปและกลายเป็นความเคยชินในที่สุด แม้ว่าหน้าที่การงานจะ
ประสบความสำเร็จแต่ชีวิตส่วนตัวอาจจะล้มเหลวได้

งานสนุก...ใจสบาย
สิ่งสำคัญที่สุดที่จะช่วยให้ชีวิตการทำงานมีความสุข งานมีประสิทธิภาพ และสุขภาพกายและใจก็ไม่เคร่งเครียดจนเกินไป คือ การบริหารจัดการงานให้เป็นสนุก หลายคนอาจจะสงสัยว่าแล้วจะทำให้งานสนุกได้อย่างไร ในเมื่องานบางอย่างเป็นเรื่องเครียด และน่าเบื่อ
  • มองงานทุกอย่างตรงหน้าให้เป็นเรื่อง “สนุก” ลองคิดว่าปัญหาและอุปสรรคต่างๆ คือโจทย์ที่ท้าทาย
    ความคิดและความสามารถของเรา การข้ามผ่านปัญหาต่างๆ ไปได้ก็เหมือนการข้ามผ่านอุปสรรคในเกมส์ที่เราคุ้ยเคย
  • ยอมรับสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปัญหา อุปสรรค ฯลฯ และพยายามอย่าเพิ่งคิดอะไรที่ยุ่งยาก
    ซ้บซ้อน หรือคิดไปไกลเกินกว่าสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้า เพราะนั่นอาจจะทำให้เรากังวลไปเกินกว่าเหตุ
  • เมื่องานเสร็จหรือเครียดจนถึงขีดสุด ควรจะ “หยุด” ทุกอย่างไว้ แล้วลุกไปหากิจกรรมทำแก้เครียด อาทิ ฟังเพลง ร้องเพลง ปลูกต้นไม้ รดน้ำต้นไม้ ทำอาหาร หรือจัดโต๊ะทำงาน เพราะช่วงเวลาเหล่านี้จะช่วยดึงสมอง กาย และใจออกไปจากเรื่องงานชั่วคราว เพียงเท่านี้ เราก็จะได้พักและคลายความตึงเครียดลงมาได้
อย่ารอให้ถึงเวลา...พักผ่อน
หลายคนเคยชินกับการทำงานไปเรื่อยๆ จนกระทั่งร่างกายหมดแรง หรือใช้พลังจนหมดหยดสุดท้าย...
แล้วค่อยพักผ่อน แต่รู้หรือไม่การกระทำดังกล่าวยิ่งสร้างผลเสียให้กับร่างกายในระยะยาว แต่อาจไม่แสดงผลในทันที
  • นอนน้อย สาเหตุของการเกิดโรค รู้หรือไม่ว่าคนที่เคยชินกับการอดหลับอดนอนเพื่อทำงานให้เสร็จทันเวลาและค่อยนอนพักผ่อนทีเดียว จะส่งผลเสียต่อร่างกายในหลายด้าน อาทิระบบการย่อยอาหารทำงานด้อยลง ร่างกายขาดภูมิต้านทานต่อการป้องกันโรคต่างๆ เสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งในระบบที่เกี่ยวข้องกับการหลั่งฮอร์โมน ที่สำคัญ จากการศึกษาของนักวิจัยยังพบว่าอาจส่งผลกระทบทำให้ประสิทธิภาพการจำลดลง
  • พลังสร้างสรรค์ลดลง ภาพรวมผลเสียสำคัญของการไม่ดูแลสภาพร่างกายและจิตใจให้ความสมดุล คือ ร่างกายและจิตใจจะเกิดภาวะถดถอย หรือเรียกง่ายๆ ว่า “เอื่อย” ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง
    โดยเฉพาะในกรณีที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์มากๆ อาจทำให้ต้องใช้เวลาคิดมากกว่าปกติ หรือบางครั้งก็คิดไม่ออกเลยก็ได้
แม้ว่าความไม่สมดุลแห่งชีวิตจะไม่ส่งผลให้เห็นได้ทันที แต่ทว่า ผลดังกล่าวจะเห็นได้ในระยะยาวซึ่งอาจจะช้าเกินกว่าจะแก้ไข ...ดังนั้น ลองหันมาพิจารณาชีวิตประจำวันของตัวเองดูสิว่า มีพฤติกรรมเสี่ยงใดๆ ที่อาจทำให้ชีวิตเอียงซ้ายเอียงขวาหรือไม่ เพื่อความสุข สมบูรณ์ทั้งกายและใจ

ไม่มีความคิดเห็น: